ถ้าพูดถึง Switch Hub มันก็คือ อุปกรณ์สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่อยู่ในระบบเครือข่าย
พูดง่ายๆ ก็คือ Switch Hub เป็น อุปกรณ์ที่มีหน้าที่ในการเชื่อมต่อให้คอมพิวเตอร์ ที่ตั้งอยู่คนละที่นั้น สามารถที่จะสื่อสารกันได้นั่นเอง
ซึ่งโดยปกติแล้ว จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน คือ
- Managed Switch
หมายถึง Switch ที่ผู้ใช้งานนั้น สามารถที่จะทำการตั้งค่าการทำงานได้ เช่น ตั้งค่าผ่าน CLI, GUI, WUI ได้ ซึ่งส่วนใหญ่ในกลุ่มงานอุตสาหกรรมมักจะนิยมใช้ประเภทนี้ค่อนข้างแพร่หลาย
เพราะนอกจากจะสามารถตั้งค่าให้เหมาะสมกับงานที่หลากหลายได้แล้วนั้น ยังทำให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบ แก้ไขปัญหา ที่อาจจะเกิดขึ้น ได้สะดวก และ ง่ายขึ้นนั่นเอง
โดยทั่วไปแล้ว ราคาของ Managed Switch ลักษณะนี้จะสูงกว่า แต่ก็คุ้มค่ามากกว่าเมื่อมันเกิดปัญหานั่นเอง
2. Unmanaged Switch
หมายถึง Switch ที่สามารถทำงานได้เองโดยอัตโนมัติ เพียงแค่ต่อสาย LAN ก็ทำงานได้เลย ข้อด้อยคือ ผู้ใช้งานจะไม่สามารถเข้าไปตั้งค่าใดๆ ได้
🔸เปรียบเทียบ Switch Hub ระหว่าง Industrial Grade VS Commercial Grade 🔸
⚪ Switch Hub ที่เป็น Commercial Grade
ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการใช้งานในบ้าน หรือ สำนักงาน
จุดเด่น
– ใช้งานได้ค่อนข้างสะดวก เพียงแค่ต่อ Adapter ก็จ่ายไฟ สามารถใช้งานได้ทันที
– น้ำหนักเบา ขนาดเล็ก สามารถจัดวางใช้งานตามโต๊ะทำงาน ชั้นวางของ ต่างๆ ได้สะดวก ไม่ต้องติดตั้งให้ยุ่งยาก
– Design มีความสวย เพราะสินค้าใช้ตามบ้าน ก็เหมือนของตกแต่งบ้าน
🔵 Switch Hub ที่เป็น Industrial Grade หรือ เกรดอุตสาหกรรม
จะถูกออกแบบ มาให้เหมาะกับพื้นที่ใช้งานตามโรงงานอุตสาหกรรม หรือ สภาวะแวดล้อม ที่มีความร้อนสูง มีฝุ่นละอองต่างๆ
จุดเด่น
– รองรับการติดตั้งในตู้ควบคุม โดยอุปกรณ์จะรองรับการติดตั้งตามมาตรฐาน เช่น ติดตั้งบนราง Din Rail หรือยึดติดผนังแบบ Wall Mount
– รองรับแหล่งจ่ายไฟชนิด 24Vdc (ไฟที่ใช้กันตามโรงงานนั้นจะเป็น ไฟชนิด 24Vdc ในตู้ควบคุมเป็นหลัก ซึ่งก็จะมีความปลอดภัยสูง)
– รองรับ FG หรือ Frame Ground สำหรับต่อสายดินเข้าที่ตู้ควบคุม ช่วยป้องกันการเกิดไฟดูด
– วัสดุทำจากเหล็ก มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่มีความร้อนสูง ใช้งานได้นานกว่าเกรดทั่วไป
– รองรับการใช้งานที่หลากหลายสภาวะ เช่น พื้นที่โรงงานน้ำมันหรือก๊าซ จำเป็นต้องป้องกันการเกิดประกายไฟ หรือ พื้นที่โรงงานผลิตอาหารต่างๆ เน้นความสะอาด
Switch Hub ที่เป็น Industrial Grade จะตอบโจทย์ได้มากกว่าเกรดทั่วไป
🔸เปรียบเทียบราคาระหว่าง Industrial Grade VS Commercial Grade 🔸
แน่นอนว่า Switch Hub ที่เป็น Industrial Grade หรือเกรดอุตสาหกรรมนั้น จะมีราคาสูงกว่า Commercial Grade
ถ้าหากมองในเรื่องของการนำไปใช้งาน โดยเฉพาะ การใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรม หรือ สภาวะแวดล้อมที่มีอุณหภูมิ ความร้อนสูง ฝุ่นละอองเยอะ
Switch Hub ที่เป็นเกรดอุตสาหกรรมย่อมเหมาะแก่การใช้งานมากกว่า
⛔ปัญหาที่พบเมื่อนำ Switch Hub ที่เป็น Commercial Grade หรือที่ใช้งานตามบ้าน สำนักงานทั่วไป ไปใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ คือ
- เมื่ออุปกรณ์มีปัญหาเกิดขึ้นภายในโรงงาน ผู้ใช้งานจะต้องเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญภายนอก ไปทำการซ่อม หรือ แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดค่าใช้จ่าย และ เสียเวลาในการทำงาน
และถ้าหากหากพื้นที่ติดตั้งใช้งานอยู่ไกล ผู้ใช้งานก็จะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเช่น ค่าเดินทาง เป็นต้น
- หากนำอุปกรณ์ไปใช้ในพื้นที่หน้างานที่มีอุณหภูมิความร้อนสูง หรือ มีฝุ่นละอองมาก
อุปกรณ์ที่เป็นเกรดทั่วไป ย่อมใช้งานได้ไม่นาน มีอันต้องเสีย ใช้งานไม่ได้ ผู้ใช้งาน นอกจากจะต้องเสียค่าซ่อมแล้ว อาจจะต้องเสียเงินซื้ออุปกรณ์ตัวใหม่บ่อยๆ ได้
ดังนั้น หากมองในมุมนี้ จะเห็นว่า การเลือกใช้อุปกรณ์ที่เป็นเกรดอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ แม้ราคาจะสูงกว่า แต่ถ้าหากมองในเรื่องของการใช้งาน ความทนทานแล้วนั้น
ถือว่าคุ้มค่า ทั้งในด้านของการดูแลรักษา และ อายุการใช้งาน ที่สามารถใช้ได้ในระยะยาวอีกด้วย
_____________________________
สนใจสอบถามเกี่ยวกับอุปกรณ์เพิ่มเติมได้ที่
บริษัท ไอบีคอน จำกัด
โทร. 02-540-2299
Email : info@ibcon.com
Facebook: facebook.com/IBCON
Line@ : @ibcon (มี @ ข้างหน้า
Website: www.ibcon.com
E-commerce Shop : shop.ibcon.com